ประวัติสมาคมฯ
ย้อนกลับไปเมื่อสักหลายสิบปีก่อน ประมาณปี พ.ศ. 2531 เริ่มมีผู้มาศึกษาเล่าเรียนที่เมืองปูเณ่ ซึ่งในช่วงแรกๆ เป็นพระสงฆ์เสียส่วนมาก มีกันอยู่หลายรูป เรียนตั้งแต่ระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก และหลักสูตรภาษาอังกฤษ
ในสมัยนั้นพระสงฆ์ที่มาเรียนจะอยู่รวมกันหลายรูป ใกล้มหาวิทยาลัยปูเณ่เรียกว่า ปราสาทหลอด ซึ่งการใช้ชีวิตของพระนักศึกษาไทยที่นี่ ณ ตอนนั้น ก็ต้องพึ่งพาตัวเองเสียส่วนใหญ่ ทั้งเรื่องอาหารการกิน และความเป็นอยู่ แต่กระนั้นก็มีระบบรุ่นพี่ดูแลรุ่นน้อง หรือตามแล้วแต่ใครสะดวก
ในเวลาต่อมา เมื่อมีนักศึกษาจำนวนมากขึ้นจึงยากในการที่จะดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะคนเพียงสองสามคน ไม่สามารถดูแลกลุ่มคนในจำนวนที่มากได้ ทางรุ่นพี่ที่จบไปแล้วจึงได้มีความเห็นว่าควรที่จะจัดให้เป็นระบบขึ้น ต่อมาก็ได้มีการจัดตั้ง สมาคมศิษย์เก่านักศึกษาไทยเมืองปูเณ่ขึ้น โดยทางรุ่นพี่ได้บริจาคเงินบางส่วนและมีการจัดเก็บเงินค่าเป็นสมาชิก เพื่อจะได้มีเงินในการบริหารสมาคมและเพื่อได้ช่วยเหลือกับนักศึกษาที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งการร่วมกิกรรมต่างๆ กับทางมหาวิทยาลัยในแต่ละที่
กรรมการจะได้รับการแต่งตั้งหรือเลือกตั้งเข้ามา โดยมีพระสงฆ์เป็นประธานนักศึกษา และมีกรรมการทั้งฆราวาสและพระนักศึกษาคละกันไป ในช่วงนั้นนักศึกษาที่เป็นพระและฆารวาสมีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2556 เหลือพระที่มาศึกษาอยู่แค่สองรูปซึ่งเป็นพระที่เพิ่งจะเข้ามาเป็นนักศึกษาใหม่ ส่วนพระที่เหลืออีกสามรูปเป็นพระนักศึกษาที่รอสอบจบในระดับปริญญาเอก จึงเป็นช่วงที่ขาดประธานนักศึกษาและกรรมการเมืองปูเณ่ไป จนกระทั่งปลายปีเดียวกันนั้นต้องมีการจัดการเลือกตั้งกรรมการสมาคมขึ้นเพื่อให้สามารถดำเนินการในกิจกรรมนักศึกษาได้อย่างเป็นระบบเหมือนเดิม และในปีนี้ได้มีฆารวาสได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานนักศึกษาเป็นครั้งแรก มีวาระในการทำงานหนึ่งปี เริ่มตั้งแต่ 5 ธันวาคม 2556 สื้นสุด 5 ธันวาคม 2557 ซึ่งนำทีมโดย
นางสาว จิดาภา เทวฤทธิ์ ตำแหน่ง ประธาน
นายประยูร ไกรโยธี ตำแหน่งรองประธาน
นางสาวชุติมา เจนวรานนท์ ตำแหน่งเลขานุการ
นางสาวใหม่ ทานิกูชิ ตำแหน่ง ประชาสัมพันธ์
นายธัญพิสิษฐ์ เพ็งช่วย ตำแห่งเหรัญญิก
นายประเสริฐศักดิ์ แก้วสง่า ตำแหน่งฝ่ายวัฒนธรรมและกิจกรรม
และนายจริภัทร เดชอุปการ ตำแหน่งปฎิคม
จากสถานการณ์ปัจจุบันมีนักศึกษาที่เป็นฆราวาสมากกว่าพระสงฆ์จึงได้ปรัปเปลี่ยนให้ผู้ที่เป็นประธานหรือเป็นกรรมการสามารถเป็นพระสงฆ์หรือฆารวาสก็ได้ให้ถือตามความเหมาะสมและตามมติของการเลือกตั้งเพื่อให้สมาคมสามารถดำเนินงานได้สืบต่อไป ในครั้งนี้ได้มีการเปลี่ยนชื่อสมาคมจาก สมาคมศิษย์เก่านักศึกษาไทยเมืองปูเณ่เป็น สมาคมนักศึกษาไทยเมืองปูเณ่ เพื่อให้สอดคล้องกับสมาคมนักศึกษาไทยที่เมืองอื่นๆ ในอินเดีย