Updates

ปัญหาของผู้มาใหม่ (4) – ความปลอดภัย

การพำนักอาศัยในอินเดียนั้นไม่ว่าจะเป็นการพำนักระยะสั้นเช่นการเดินทางท่องเที่ยว ติดต่อธุรกิจ หรือการอาศัยระยะยาวเช่นการ ศึกษาเล่าเรียน หรือการทำงาน สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึกถึงมากที่สุดไม่ต่างจากการอาศัยในประเทศบ้านเกิดหรือประเทศอื่น ๆ คือ “ความปลอดภัย” เพราะภัยคุกคามนั้นเกิดขึ้นได้เสมอ สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เราใช้ชีวิตต่างถิ่นได้อย่างมีความสุขก็คือความไม่ประมาท ระมัดระวัง แต่ไม่ถึงกับต้องวิตกกังวล ซึ่งภัยคุกคามความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท

การลักขโมย

ที่จริงขโมยขโจรนั้นมีอยู่ทุกที่ การลักขโมยนั้นมีหลายรูปแบบตั้งแต่งัดห้องยกเค้า ขโมยรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ หรือจักรยาน (อย่างหลังเกิดขึ้นบ่อยสุด) การถูกล้วงกระเป๋า กรีดกระเป๋า (เกิดบ่อยมาก) เป้าหมายของทรัพย์สิน คือ กระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือ

ภัยคุกคามจากการลักขโมยนี้ เราสามารถป้องกันหากเรามีสติและระมัดระวังตัวอยู่เสมอ ต่อไปนี้

คือ ข้อแนะนำในการป้องกันภัยจากการลักขโมย โดยเฉพาะสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในอินเดีย

  1. แม่กุญแจให้นำติดตัวมาจากประเทศไทย เอามาหลาย ๆ อันและหลายขนาด ตั้งแต่แม่กุญแจห้องพัก จนกระทั่งกุญแจล็อคจักรยาน (เลือกแบบเป็นห่วงล็อคล้อ) หรือมอเตอร์ไซค์ (แม่กุญแจข้อยาวล็อคล้อ) แม้แม่กุญแจจะมีขายทั่วไปในอินเดีย แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวแล้ว แทบทั้งหมดคุณภาพและความแข็งแรงสู้แม่กุญแจจากไทยยี่ห้อดัง ๆ ไม่ได้เลย ผู้เขียนเคยทุบแม่กุญแจอินเดียเพราะทำกุญแจหาย ปรากฏว่าทุบทีเดียวก้อหลุดแล้ว ในขณะที่แม่กุญแจไทยทุบยากมาก ต้องใช้วิธีเลื่อยตัดอย่างเดียว ซึ่งขโมยต้องใช้ความพยายามพอสมควร นอกจากนั้นจงรักษากุญแจและกุญแจสำรองไว้ให้ดีเพราะร้านทำกุญแจในอินเดียทำกุญแจเลียนแบบของไทยไม่ได้
  2. หากต้องเดินทางผ่านที่ ๆ มีคนพลุกพล่าน ซึ่งก็เป็นแหล่งของนักล้วงทั้งหลาย ให้ระมัดระวังกระเป๋าถือ (สำหรับผู้หญิง) เป็นพิเศษ ถ้าให้ดีทั้งชายและหญิงหากท่านรู้สึกไม่ปลอดภัยให้เอากระเป๋าสตางค์ หรือ โทรศัพท์มือถือมาใส่กระเป๋ากางเกงด้านหน้าแทน ในกรณีใส่พอ และใช้มือป้องกันทรัพย์สินของเราตลอดเวลาในขณะที่ต้องเดินผ่านพื้นที่เสี่ยงภัยที่จะถูกขโมยเหล่านั้น
  3. ในการเดินทางโดยเฉพาะเดินทางไกล อย่าเก็บเงินทั้งหมดไว้ในกระเป๋าเดียว ให้แบ่งเก็บในกระเป๋าอื่นหรือเก็บตามที่ต่าง ๆ บ้างตามสะดวก เพราะหากหายจะได้ไม่หายหมด และอย่าถือเงินสดก้อนใหญ่เกินไป ให้คำนวณแต่พอดี ยิ่งเงินติดตัวมาก ท่านยิ่งต้องระวังมาก นอกจากนั้นสิ่งสำคัญที่ต้องรักษาเท่าชีวิตในยามเดินทางก็คือ พาสปอร์ตนั่นเอง เพราะนี่คือบัตรประจำตัวประชาชนของท่านในต่างแดนที่ใช้ระบุตัวตนของท่าน แต่หากหายขึ้นมาให้รีบติดต่อสถานทูตเป็นการด่วน (ท่านควรจดเบอร์ฉุกเฉินต่างๆและเบอร์คนรู้จักแยกไว้ต่างหาก เพราะเดี๋ยวนี้คนจำเบอร์โทรศัพท์กันไม่ค่อยจะได้ หากมือถือหายก็แทบสูญสิ้นความทรงจำกันเลยทีเดียว)
  4. อย่าโชว์ทรัพย์สินของท่านโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้าคนไม่รู้จัก ไม่ว่าจะเป็นมือถือใหม่ล่าสุด หรือแทบเลต เพราะท่านจะถูกจับตามองจากมิจฉาชีพโดยไม่รู้ตัว ทางที่ดีควรมีมือถือไว้อย่างน้อยสองเครื่อง เครื่องหนึ่งก็แล้วแต่สะดวกทรัพย์ของท่านจะแสวงหา อีกเครื่องให้หามือถือถูก ๆ เน้นเอาไว้โทรเข้าโทรออก โดยเฉพาะเมื่ออยู่นอกเคหสถานของท่าน

ภัยจากอุบัติเหตุ

อินเดียได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่อุบัติเหตุจากการใช้ถนนมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก และเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตของผู้คนที่นี่ ด้วยพฤติกรรมการขับรถที่ติดขั้น “ยอดแย่” ขับเร็ว ปาดซ้ายปาดขวา ไร้ระเบียบวินัย ตำรวจก็ไม่กวดขัดเรื่องวินัยจราจร ดังนั้นไม่ว่าท่านจะเป็นคนใช้ถนนประเภทใดไม่ว่าขับรถหรือเดินสัญจรข้างถนน สิ่งสำคัญที่สุดคือ การมีสติและไม่ประมาท ขับรถบนถนนอินเดียท่านต้องมีคุณสมบัติข้างต้นมากขึ้นเป็นสองเท่าเพราะมักมีเรื่องฉุกเฉินไม่คาดคิดเกิดขึ้นบนท้องถนนเสมอ ไม่ว่า รถวิ่งกินเลน วัวควายเดินตัดหน้า รถบรรทุกวัตถุที่ยาวเกินขนาดรถ รถฝ่าไฟสัญญาณจราจร รถเลี้ยวไม่ให้สัญญาณไฟ ด้วยพฤติกรรมการใช้ถนนที่น่ารำคาญใจดังกล่าวทำให้ท่านยังต้องมีความอดทนและยับยั้งอารมณ์มากขึ้นเป็นเท่าตัว

นอกจากนั้นผู้เดินสัญจรริมถนนก็คือ ผู้เสี่ยงภัยอย่างหนึ่งจากรถที่วิ่งพลุกพล่าน ดังนั้นจงหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์ ไม่ว่าจะเป็นการแชทหรือการคุย ไม่ว่าท่านจะใช้สมอลทอล์คหรือไม่ก็ตาม เพราะการใช้โทรศัพท์ทำให้สมาธิและการระมัดระวังตัวของท่านสูญหายไปแล้วครึ่งนึง ดังนั้น หากไม่จำเป็นก็หลีกเลี่ยง แต่หากจำเป็นก็จงหยุดเดินและคุยให้เสร็จจะดีกว่า นอกจากนั้นการใช้โทรศัพท์ข้างทางยังเปิดโอกาสให้มิจฉาชีพจับมองเพื่อหาโอกาสขโมยทรัพย์สินอีกด้วย

นอกจากเรื่องการใช้ถนนแล้วยังมีคำแนะนำสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวโดยเฉพาะในแถบที่เป็นเทือกเขาสูง ให้พยายามหลีกเลี่ยงการโดยสารรถจี๊ปหรือรถนั่งโดยสารขนาดเล็กทั้งหลายเช่นอินโนว่า ซูโม่ ฯลฯ ให้เลือกเดินทางโดยรถบัสจะปลอดภัยกว่า เพราะอุบัติเหตุมักเกิดจากรถโดยสารขนาดเล็กเหล่านั้น          ที่มักต้องใช้ความเร็ววิ่งทำรอบและบ่อยครั้งที่รับวิ่งทั่วไปทำให้คนขับไม่คุ้นเคยเส้นทาง ตกเขามานักต่อนักแล้ว

ภัยจากการประทุษร้ายทางกาย

การประทุษร้ายทางกายนั้นถือเป็นเรื่องอันตรายที่สุด ไม่ว่าเป้าหมายของการประทุษร้ายนั้นจะเป็นการมุ่งร้ายทางเพศ ชีวิต หรือทรัพย์สินก็ตาม คำแนะนำสำคัญที่สุดก็คือ เลี่ยงการเดินทางคนเดียวโดยเฉพาะในยามค่ำคืน อย่าพาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงจะเกิดอันตราย และอย่าได้ประมาท นอกจากนั้นเรายังสามารถป้องกันตัวเองได้จากคำแนะนำต่อไปนี้

  1. หลีกเลี่ยงการแต่งตัวที่เป็นเป้าสายตาทางเพศ เช่นการแต่งชุดรัดรูปหรือเปิดเผยมากเกินไป อินเดียเป็นประเทศที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม ดังนั้นการแต่งตัวไม่ให้แตกต่างจากชาวบ้านคือการป้องกันตัวที่ดีอย่างหนึ่ง เข้าทำนองเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม คนที่แต่งตัวล่อแหลมนอกจากถูกจับตามมองจากเหล่ามิจฉาชีพแล้วยังอาจถูกมองได้ว่าเป็นผู้หญิง “ง่าย” การที่เราจะได้รับเกียรติจากใครมันอยู่ที่ตัวเราด้วยว่า ทำตัวให้เป็นที่น่าเกรงใจ มีเกียรติหรือไม่ อย่าได้คิดถึงสิทธิเสรีภาพในการแต่งตัว เก็บเหตุผลนั้นไว้ใช้ที่บ้าน เพราะหากเกิดเหตุร้ายขึ้นแล้ว จะอ้างยังไงก็คงสายเกินไป ดังนั้นกันไว้ดีกว่าแก้
  2. หลีกเลี่ยงการเดินทางคนเดียวในยามค่ำคืน ไม่ว่าท่านจะเป็นชายหรือหญิง ควรมีเพื่อนเดินทางด้วยกัน แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ และจำเป็นต้องใช้รถประจำทางส่วนบุคคล เช่น แท็กซี่ หรือออโต้    ริกชอว์ (ตุ๊กๆอินเดีย) ทันทีที่ขึ้นรถจงโทรหาเพื่อนเพื่อบอกเลขทะเบียนรถ พูดดังๆให้คนขับได้ยิน นอกจากนั้นท่านยังต้องมีทักษะจดจำเส้นทางไว้บ้าง ไว้กรณีคนขับขับออกนอกเส้นทางท่านจะได้รู้ และหากคนขับขอแวะรับใครหรือมีใครขึ้นมาร่วมโดยสารกับท่าน จงไล่คนเหล่านั้นไป อย่าให้ร่วมเดินทางด้วยเด็ดขาด และจงนั่งติดประตูเสมอเพราะหากมีเรื่องฉุกเฉินท่านจะได้หนีได้ นอกจากนั้นการเดินไปหารถควรมีคนร่วมเดินไปด้วย อย่าไปคนเดียว
  3. อย่าได้แสดงความอ่อนแอ ผู้ที่ดูอ่อนแอ คือ เหยื่อลำดับต้นของมิจฉาชีพ ในที่คนหมู่มากจงเก็บความสุภาพอ่อนโยนของท่านไว้ หากรู้สึกไม่ปลอดภัยหรือมีภัยคุกคามไม่ว่าทางวาจาหรือกาย จงพูดเสียงดังต่อคนมุ่งร้าย ให้คนอื่นได้ยิน คนอินเดียพร้อมจะช่วยเหลือท่านหากท่านเอ่ยปากบอก หากใครพยายามแตะเนื้อต้องตัวท่าน ให้โวยวายและพูดไปดังๆว่า “don’t touch me” และพูดภาษาฮินดีว่า “yaao” ซึ่งแปลว่าไปให้พ้น จำไว้ว่าจงทำตัวแกร่งและมั่นใจในตัวเอง(แต่ระมัดระวัง)เสมอ แต่หากท่านเจอการประทุษร้ายในที่ลับตาคน อย่าได้ใช้เทคนิคข้างต้น จงวิ่งไปหาที่ ๆ คนอยู่ นอกจากนั้นให้เลี่ยงการถามทางจากคนที่ดูไม่น่าไว้วางใจ เพราะง่ายต่อการประทุษร้าย เพราะเขาจะรู้ทันทีว่าท่านไม่รู้ทางหนีทีไล่และไม่รู้จักใครแน่นอน
  4. หากจำเป็นต้องเดินทางด้วยรถไฟหรือรถบัส ให้เลี่ยงขบวนหรือคันที่ท่านจะถึงปลายทางในเวลากลางดึก แต่หากเลี่ยงไม่ได้ให้ติดต่อคนที่รู้จักในเมืองปลายทางหรือโรงแรมที่จะเข้าพักให้เดินทางมารับท่านที่สถานีรถไฟหรือท่ารถบัส โรงแรมดีๆมักมีบริการเหล่านี้ นอกจากนั้นหากท่านเป็นผู้หญิงควรหลีกเลี่ยงการจองเตียงล่างของรถไฟ ให้เลือกเตียงบนเสมอ และหากจำเป็นต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำกลางดึกหากมีเพื่อนเดินทางจงปลุกและชวนไปด้วย แต่หากเดินทางคนเดียวจงระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ  งดใช้โทรศัพท์ระหว่างเดิน เพราะทำให้ท่านตกเป็นเป้านิ่งที่ความระมัดระวังถูกทำลายจากโทรศัพท์ เพราะมิจฉาชีพมักพุ่งเป้าไปที่คนที่ขาดความระมัดระวัง นอกจากนั้นผู้หญิงผมยาวย่อมต้องเพิ่มความระแวดระวังเพราะง่ายต่อการถูกชักผมเพื่อทำร้ายร้ายกาย ผู้เขียนแนะนำว่าหากต้องเดินทางคนเดียว ให้เดินทางด้วยรถไฟแอร์จะดีที่สุด เพราะมีระบบรักษาความปลอดภัยดีกว่ารถพัดลมมาก ผู้โดยสารมักเป็นคนอีกระดับหนึ่ง เสียเงินเพิ่มหน่อยเพื่อแลกกับความปลอดภัย
  5. อย่าผูกมิตรกับคนแปลกหน้าเร็วเกินไป เพราะอาจถูกตีความผิดว่า ท่านสนใจในตัวเขา
  6. จงหลีกเลี่ยงการทักทายแบบสัมผัสมือ หรือ กอดกับคนต่างเพศ ซึ่งคนท้องถิ่นบางคนมักเข้าใจผิด(อย่างเจตนา)ว่าการทักทายแบบตะวันตกจะเป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติ ท่านจงใช้คำทักทายท้องถิ่นเช่น “นมัสเต” แทน
  7. จงหาซื้ออุปกรณ์ป้องกันภัยติดตัวไว้เช่นสเปรย์พริกไทย หรือเครื่องช็อตไฟฟ้า
  8. หากเจอภัยคุกคามประชิดตัวแล้วจงใช้ไหวพริบ พาตัวเองออกจากสถานการณ์นั้นให้ได้ อย่าคิดสู้ หากใช้อุปกรณ์ป้องกันตัวได้จงใช้และรีบวิ่ง สำหรับคนที่พกมีด หากท่านไม่มีทักษะการใช้เพียงพอหรือไม่แน่ใจในแรงและความสามารถของท่าน จงหลีกเลี่ยงการใช้ เพราะมีดนั้นจะกลายเป็นอาวุธที่มิจฉาชีพย้อนกลับมาทำร้ายตัวท่านเอง

ภัยจากเหตุความวุ่นวายทางการเมืองและการก่อการร้าย

อินเดียยังคงมีเหตุการณ์ความไม่สงบจากกลุ่มที่ขัดแย้งกับทางรัฐบาลอยู่บ้าง.หรือเหตุขัดแย้งทางศาสนา โดยเฉพาะในรัฐจัมมูและแคชเมียร์ พิหาร และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ชาวบ้านอาจลุกฮือประท้วงอย่างไม่ทันตั้งตัว หรือท่านอาจเจอ “อินเดียมุง” ที่เกิดง่ายและมีจำนวนผู้เข้าร่วมมากกว่า “ไทยมุง”เป็นร้อยเท่า ดังนั้นจงหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยง ท่านต้องศึกษาให้ดีก่อนเดินทางในพื้นที่ดังกล่าว อาจสอบถามจากชาวบ้านหรืออ่านหนังสือพิมพ์ ผู้เขียนเคยมีประสบการณ์ไปติดอยู่ในกลุ่มม็อบต่อต้านรัฐบาลในเมืองศรีนาการ์ รัฐแคชเมียร์อย่างไม่ทันรู้ตัว เพราะไม่รู้ข่าวว่าจะมีการประท้วงในวันเวลานั้น เมื่อเดินไปติดในกลุ่มม็อบก็เจอการปิดล้อมจากทหารรอบด้าน และมีการสลายม็อบ ซึ่งต้องขอบคุณชาวบ้านในท้องที่ที่จูงมือผู้เขียนไปหลบในบ้าน จนเหตุการณ์คลี่คลาย นอกจากเหตุการณ์ทางการเมืองแล้ว ท่านยังต้องรู้วัฒนธรรมธรรมประเพณีของคนในท้องถิ่น เพื่อที่ท่านจะได้ไม่ไปละเมิด และภัยร้ายจะได้ไม่ถึงตัวท่านอย่างไม่ตั้งใจ เช่น ชุมชนฮินดูส่วนใหญ่ทานมังสวิรัติทานก็อย่าไปถามหาอาหารประเภทเนื้อสัตว์หรือกินในที่โล่งแจ้ง เช่นเดียวกับอย่าไปถามหาหมูในชุมชนมุสลิมนั่นเอง นอกจากนั้นเครื่องดื่มมึนเมามักเป็นที่ไม่น่าอภิรมย์ของทุกชุมชนความเชื่อของอินเดียอยู่แล้วดังนั้นอย่าไปทานในที่สาธารณะ สำหรับบุหรี่เป็นเรื่องอ่อนไหวในสังคมซิกข์ซึ่งท่านต้องหลีกเลี่ยง

การอยู่อาศัยในอินเดียนั้นที่จริงแล้วไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หลายๆประเทศในโลกตะวันตกยังมีสถิติอาชญากรรมสูงกว่าอินเดียหลายเท่า อย่างไรก็ตามเราก็ต้องไม่ประมาท มีสติ ระมัดระวังตัวอยู่เสมอ แล้วเราจะพบว่าที่จริงแล้วอินเดียเป็นประเทศที่น่าค้นหาและเรียนรู้ ความหลากหลายทั้งชาติพันธุ์ ศาสนา ภาษา ความเชื่อ เหล่านี้ คือ ความสวยงามดังเช่นดอกไม้หลากสี อยู่ที่เราเลือกจะมองตามความเป็นจริงหรือ ตามความคิดเดิม ๆ เกี่ยวกับอินเดียที่มักถูกปลูกฝัง ขอให้ทุกท่านจงเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ในประเทศนี้ให้เต็มที่ แล้ววันหนึ่งท่านอาจหลงรักอินเดียโดยไม่ทันรู้ตัว

 

แสดงความคิดเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

%d bloggers like this: